top of page

Ceramic Coating

เคลือบแก้วแท้

Ceramic Coating หรือที่เรียกว่า Glass Coating เป็นการเคลือบสีรถยนต์ด้วยสารเคลือบชนิด Hard Coating ที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องสีรถยนต์จากมลภาวะต่างๆ โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:

1. ปกป้องสีรถจากแสงแดดและรังสี UV

Ceramic Coating ช่วยปกป้องสีรถจากการทำลายของแสงอาทิตย์ โดยเฉพาะรังสี UVA และ UVB ที่อาจทำให้สีรถซีดจางหรือหมองคล้ำ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันความร้อนที่เกิดขึ้นในห้องเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ป้องกันการซีดจางและมูลนก

การเคลือบแก้วช่วยปกป้องสีรถจากการซีดจางและมูลนก หรือยางไม้ ที่อาจทำลายผิวสีของรถ ให้สีดูใหม่และเงางามยาวนานขึ้น

3. ลดการเกาะตัวของฝุ่นละอองและน้ำ

สารเคลือบแก้วช่วยลดการจับตัวของฝุ่นละอองและน้ำบนผิวสีรถ ทำให้ฝุ่นและคราบน้ำไม่เกาะแน่นบนสีรถ ช่วยป้องกันคราบสกปรกจากพายุฝนหรือฝุ่นควัน

4. เพิ่มความเงางามและป้องกันรอยขีดข่วน

เคลือบแก้วช่วยทำให้รถมีความเงางามอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังเพิ่มความหนาให้กับชั้นสีรถประมาณ 10 ไมครอน ทำให้รอยขีดข่วนบางๆ ไม่สามารถเข้าถึงผิวสีได้ และช่วยให้การขัดและลบรอยขีดข่วนทำได้ง่ายขึ้น

5. อายุการใช้งานที่ยาวนาน

การเคลือบแก้วมีอายุการใช้งานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา และยังช่วยเพิ่มความทนทานให้กับชั้นสี ทำให้รถของคุณดูใหม่และเงางามตลอดเวลา

ทำไมต้องเลือกเคลือบแก้ว?

การเคลือบแก้วหรือ Ceramic Coating เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในการปกป้องสีรถยนต์ของคุณจากการเสื่อมสภาพจากมลภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด, ฝุ่น, มูลนก, หรือคราบน้ำ ฝีมือของผู้เชี่ยวชาญในการเคลือบแก้วจาก AutoPlus จะช่วยให้รถของคุณดูใหม่และมีความเงางามยาวนาน

คำแนะนำสำหรับการเลือกบริการเคลือบแก้ว

  • AutoPlus ใช้เทคโนโลยีและสารเคลือบจาก ญี่ปุ่น เพื่อให้การเคลือบแก้วมีประสิทธิภาพสูงสุด

  • ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและผ่านการฝึกอบรมพร้อมให้บริการเคลือบแก้วอย่างมืออาชีพ

เคลือบแก้ว 9H คืออะไร เรามีคำตอบ (เข้าใจง่ายๆ)

เคลือบแก้ว 9H คืออะไร เรามีคำตอบ (เข้าใจง่ายๆ)

THE

 TRUTH

16.png
Powder coating pencil hardness test - easy QC tests for powder coatings

Powder coating pencil hardness test - easy QC tests for powder coatings

เคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิกคืออ่ะไร?

      

สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลสั้นๆ คลิกที่ บทสรุป พื่อประหยัดเวลา! ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าการ เคลือบแก้ว หรือ เคลือบเซรามิก คืออะไร และวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์หรือร้านที่เหมาะสมกับคุณ

การเคลือบแก้ว หรือ เคลือบเซรามิก เป็นการเคลือบสีรถยนต์ด้วยสาร SiO2 (ซิลิคอนไดออกไซด์) หรือ SiC (ซิลิคอนคาร์ไบด์) ซึ่งทั้งสองมีคุณสมบัติในการปรับแต่งการทำงาน เช่น การกันน้ำ, ความแข็ง, และการทำความสะอาดพื้นผิวได้ง่าย

การเคลือบด้วยนาโนเซรามิกคืออะไร? หรือที่เรียกว่าการเคลือบแก้วหรือการเคลือบใสแบบเซรามิก

        ก่อนอื่นค่อยมาคุยกันก่อนว่า 90 % ของสีรถยนต์จากโรงงานยานยนต์เป็นอย่างไร กล่าวคือเป็น– ระบบพ่นสีพื้นฐานและการเคลือบสี Base coat/Clear Coat system ซึ่งหมายความว่ามีการพ่นสีสองขั้นตอน โดยขั้นแรกคือการพ่นสีพื้นฐานหรือการเคลือบสีพื้นซึ่งให้จะเป็นการพ่นหรือชุบให้สีเป็นสีของรถยนต์ของคุณ และขั้นตอนที่สองคือพ่นเคลือบสีใสที่ให้ความลึกความเงาและการป้องกันสีรถยนต์ของคุณ การเคลือบสีใสจากทางโรงงานนั้นโรงงานโดยทั่วไปจะเป็นการเคลือบใสไม่มีเม็ดสีและมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสีของคุณจากความเสียหายและการซีดจางของรังสียูวี พวกมันมีแนวโน้มที่จะออกซิไดซ์หรือระเหยน้อยซึ่งทำให้รถยนต์ดูใหม่กว่าเมื่อเปรียบเทียบกับระบบสีแบบเก่า แต่ระบบเคลือบผิวใสของโรงงานมีคุณสมบัติการกันน้ำที่ไม่ค่อยดีและไม่ค่อยทนต่อสารเคมีและสิ่งสกปรกและอีกทั้งง่ายต่อการขูดขีดและรอยขนแมว จนกระทั่งการคิดค้นเคลือบเซรามิกและเคลือบแว็กซ์ เป็นวิธีที่ขจัดปัญหาในการปกป้องสีใสของคุณ แต่การแว็กซ์หรือการเคลือบสีทั่วไปยังคงไม่สามารถป้องกันความเสียหายได้อย่างสมบูรณ์ โดยการเคลือบแวกซ์หรือขี้ผึ้งนั้นไม่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนหรือรอยขนแมวและไม่ทนต่อสารเคมีหรือไม่ค่อยทนต่อความร้อน โดยความทนทานของการเคลือบแวกซ์อยู่ในช่วงหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ และอีกทั้งต้องการเคลือบซ้ำบ่อยๆซึ่งเป็นงานที่น่าเบื่อสำหรับคนใช้รถยนต์ที่ต้องการความเงาระยะยาวส่วนใหญ่ ผู้ผลิตรายและผู้ที่ชื่นชอบการทำความสะอาดรถยนต์ต่างๆ จึงได้ตามหาวิธีเพื่อปกป้องสีตั้งแต่การคิดค้นการเคลือบสีใส และการหาวิธีที่ปกป้องสีที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น และในที่สุดเค้าก็ได้ค้นพบวิธีดังกล่าวที่มีความซับซ้อนและการเคลือบที่ได้รับความนิยมคือการเคลือบด้วยเซรามิกนาโนหรือที่เราคุ้นเคยกับคำว่า “เคลือบแก้ว”

แล้วการเคลือบแก้วหรือการเคลือบเซรามิกคืออ่ะไรกันแน่

โดยพื้นฐานแล้วน้ำยาเคลือบแก้วเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวประกอบด้วยอนุภาคนาโนเซรามิกที่แขวนอยู่ในเรซิ่นใสที่เมื่อนำไปใช้จะแข็งตัวและเชื่อมโยงข้ามเป็นพื้นผิวที่แทบจะผ่านไม่ได้ซึ่งจะถูกผูกมัดทางเคมีกับรถยนต์ของคุณ หากนำไปใช้อย่างถูกต้องการเคลือบแก้วหรือเซรามิกจะไม่ทำให้หลุดออกหรือหลุดออกจากพื้นผิวที่ใช้ และถือเป็นสาร“ กึ่งถาวร” ที่จะติดอยู่กับผิวรถยนต์เสมอจนกว่าจะมีการขัดออกจากพื้นผิว เมื่อเคลือบแก้วหรือเซรามิกแล้วส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติการกันน้ำได้ดี เพิ่มความมันวาว เพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสี และสารเคมีและ ป้องกันรังสี UV เพื่อป้องกันการซีดจางของสีและการเกิดออกซิเดชัน การเคลือบแก้วหรือเซรามิกไม่ใช่สี แต่มันจะเชื่อมติดกันและปกป้องสีรถยนต์ ให้คุณคิดว่ามันเป็นชั้นที่สองของผิวหรือชั้นที่เสียสละในการป้องกันรถยนต์ของคุณซึ่งจะติดทนได้นานตั้งแต่หนึ่งถึงกว่าสองปีขึ้นอยู่กับการเตรียมผิวก่อนเคลือบและสภาวะอากาศ

เหมือนเราจะค้นพบของวิเศษที่เทียบได้กับการค้นพบน้ำพุแห่งความเยาว์วัยของสีรถยนต์!

นั่นไม่ถูกต้อง 100% แม้ว่าการเคลือบแก้วหรือการเคลือบเซรามิกเป็นสิ่งที่ดีที่สุดตั้งแต่การค้นพบนวัตกรรมการเคลือบสี แต่มันก็ไม่ได้เป็นระบบป้องกันกระสุนและอีกทั้งต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และนี่คือความจริง อันที่จริงเราถูกสอนให้มอบความจริงใจและคำมั่นสัญญาที่ให้กับลูกค้าเช่นเดียวกับอีกหลายๆร้านค้า แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับการสอนบทเรียนนั้น โดยสร้างความเข้าใจผิดและบอกว่าการเคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิกนั้นสามารถจะปกป้องได้ทุกอย่าง ดังมีให้เห็นในโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย บนเว็บไซต์ของผลิตภัณฑ์ และแม้แต่ผู้ผลิต – เราหวังว่าคนเหล่านั้นจะได้อ่านสิ่งนี้

ความแตกต่างของคุณภาพการเคลือบแก้วหรือบางที่เรียกว่าเคลือบเซรามิก

มีสินค้าที่เป็นน้ำยาเคลือบแก้วหรือเซรามิคที่อยู่ในตลาดมากมาย ไม่ว่าจะสามารถซื้อได้โดยง่ายจากในเวบหรือที่ไหนก็ตามหรือซื้อโดยตรงจากผู้ผลิต แต่น้ำยาเคลือบแก้วที่ใช้งานง่ายหรือเป็นมิตรกับผู้ใช้นั้นมักจะขาดความแข็งความทนทานความลื่นหรือคุณสมบัติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลือบแก้วหรือเซรามิก เพราะผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูงจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างมืออาชีพโดยเฉพาะเมื่อพวกเขาต้องการคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของพวกเขา คนอื่นๆทั่วไปอาจจะใช้น้ำยาเคลือบแก้วหรือเซรามิกที่ใช้งานง่ายหาง่ายตามเคาน์เตอร์เพื่อลดต้นทุนเวลาและสินค้าเพื่อให้ได้กำไรสูง แต่บ่อยครั้งที่คุณภาพของการเคลือบและความทนทานของผลิตภัณฑ์ถูกกำหนดโดย “ความชำนาญในการเตรียมพื้นผิวก่อนการเคลือบและขั้นตอนการเคลือบ”. .. การเคลือบแก้วโดยผลิตภัณฑ์เดียวกันอาจจะเกิดความงามและความคงทนของ ผลิตภัณฑ์ไม่เท่ากัน หากเคลือบหรือใช้งานไม่ถูกต้อง ด้งนั้นการตรวจสอบขั้นตอนมาตรฐานการในการเคลือบก่อนตัดสินใจทุกครั้ง ซึ่งระยะเวลามาตรฐานในการเตรียมผิวก่อนการเคลือบและขั้นตอนการเคลือบนั้น เพื่อที่จะให้ได้ผลลับที่ดีที่สุดจะตกอยู่ราว 8-10ชั่วโมง!

วิธีการเลือกน้ำยาเคลือบแก้วหรือร้านเคลือบแก้ว

การทำความเข้าใจความหมายของคำโฆษณาเพื่อการเลือกผลิตภัณฑ์น้ำยาเคลือบแก้วได้อย่างถูกต้องกันเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดของคำโฆษณาชวนเชื่อของการเคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิกเราจะให้ข้อมูลไปทีละจุดกันค่ะ

1) 7H หรือ9H มันคืออ่ะไร ( "Improved Scratch Resistance" หรือ "9H Hardness") มันคืออ่ะไร

Pencil hardness test คือการทดสอบการเสียดสีซึ่งใช้ดินสอที่มีความแข็งต่างกัน (1H คืออ่อนที่สุดและ 9H เป็น ความแข็งที่สุด) นึกถึง ดินสอตามร้านทั่วๆไปน้ะค่ะที่ Hสูง ไส้จะหักยาก โดย จะใช้เพื่อประเมินว่าพื้นผิวมีความอ่อนไหวต่อการขูดขีดได้อย่างไร ชมตัวอย่างการทดสอบได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=8WKuPHcNFp4 พวกเขาใช้ดินสอเหล่านี้ในการขูดพื้นผิวเพื่อวัดความต้านทานต่อความเสียหาย ของผิวเคลือบรถยนต์ส่วนใหญ่ โดยรถที่ออกจากโรงงานจะมีความแข็ง 4Hถึง6 H เมื่อทำการเคลือบแก้วแล้วนั้นผิวรถหลังเคลือบจะสามารถมีความแข็งเพิ่มขึ้นได้ถึง 9H 9H นี่ไม่ได้หมายความว่าการเคลือบจะไม่สามารถเกิดรอยขีดข่วนได้แต่ทั้งหมดหมายความว่าเมื่อทำการขูดความแข็งของดินสอ 9H แล้วจะไม่ทำให้เกิดรอย กล่าวคือ คือ วัตถุที่แข็งเทียบเคียงได้กับดินสอ 9Hจะไม่ทำให้รถคุณเป็นรอย แต่หากคุณวางขวดโซดาไว้บนรถแล้วเลื่อนออก - มันอาจจะทำให้เกิดรอยบนการเคลือบแก้วหรือเซรามิกของคุณ หรือถ้าคุณใช้เครื่องล้างจานเพื่อล้างรถมันจะเป็นรอยขีดข่วนแน่นอน หรือถ้ามีคนใช้กุญแจรถยนต์ขูดรถของคุณมันก็จะเป็นรอย อย่างที่เคยบอกไปเบื้องต้นน่ะค่ะ การเคลือบแก้วหรือเซรามิกไม่ใช่ การเคลือบกันกระสุนแล้วถ้าร้านไหนบอกคุณว่าเคลือบแล้วแข็ง 9Hเท่ากับเพชรนี่รีบเดินออกเลยค่ะ (ว่างๆเราจะมาคุยเรื่องนี้กันอีกเดี๋ยวจะดูวิชาการไป)

2) การเคลือบแก้วเพื่อป้องกันกันสะเก็ดหิน“Rock Chip Resistance”

หากเจอคำนี้ในโฆษณาน่ะค่ะ บอกได้เลยว่านั่นคือโกหกเต็มๆค่ะ หากมีโฆษณาไหนที่กล่าวอ้างความต้านทานที่ทนต่อรอยขีดข่วนใดๆที่วัดได้กับการตกกระทบของสะเก็ดหิน ซึ่งเรายังไม่เคยเห็นผู้ผลิตใด ๆ โพสต์หลักฐานใด ๆ โดยวิธีการทดสอบอิสระของการกระทบจากสะเก็ดหิน คุณลองจินตนาการน่ะค่ะหากมีสะเก็ดหินที่พุ่งเข้าหารถของคุณที่ความเร็ว 60 กม ต่อชั่วโมง ! แน่นอน นั่นอาจสามารถทำให้กระจกของคุณร้าวหรือแตก หรือหากกระทบที่กันชนอาจก็อาจทำให้เกิดรอยบุ๋มรอยยุบที่กันชน ไม่ว่าคุณจะมีการเคลือบแก้วหรือเซรามิกหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นหากคุณเห็นร้านค้าหรือผู้ผลิตที่อ้างว่าเคลือบแก้วหรือเซรามิกแล้วสามารถจะป้องกันกันสะเก็ดหิน แนะนำให้เปลี่ยนร้านได้เลยค่ะ!

3) ความต้านทานต่อสารเคมีที่ดีขึ้น

เนื่องจากความทนทานต่อสารเคมีที่แทบจะไม่มีอยู่ของการเคลือบสีใสของรถยนต์ที่ได้จากโรงงานนั้น ทำให้คำกล่าวอ้างนี้เป็นจริงอย่างมากค่ะ! การเคลือบแก้วหรือเซรามิกส่วนใหญ่ปกป้องไม่ให้สารเคมีซึมซาบและทำลายผิวเคลือบของรถคุณ แต่อีกครั้งมันไม่ได้กันกระสุน หากคุณปล่อยให้ฝูงขี้นกอยู่บนรถคุณเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพราะคุณมีการเคลือบแก้วหรือเซรามิกก็อาจจะทำให้สีรถคุณเกิดรอยด่างได้ แต่การเคลือบแก้วนั้นช่วยปกป้องรถจากเรื่องนี้ได้เยอะมาก!

4) เคลือบแก้วแล้วไม่จำเป็นต้องแว็กซ์รถของคุณอีก

อันนี้นี่เป็นความจริงของการเคลือบแก้วหรือการเคลือบเซรามิก ไม่เหมือนการเคลือบแว็กซ์ที่จะต้องทำอยู่ทุกๆสองสัปดาห์เป็นอย่างน้อยเพื่อให้รถเงาอยู่เสมอและการเคลือบแก้วนั้นมักจะไม่จำเป็นต้องแว็กซ์ซ้ำ เว้นแต่ว่าคุณแค่ต้องการเคลือบรถให้เงาฉ่ำยิ่งขึ้น เพราะการเคลือบแก้วหรือเซรามิกสามารถอยู่ได้นานกว่าเคลือบแวกซ์ทั่วไปอยู่แล้ว แต่หากยิ่งแวกซ์ซ้ำรถก็ยิ่งฉ่ำสวยซึ่งเราอาจจะทำทุกๆ 3 ถึง 6เดือนได้

5) การรับประกัน หรือ Warranty

การรับประกัน – การเคลือบหลายครั้งมีการรับประกันความเงาถึง 2-5 ปี บางร้านให้ ถึงตลอด ชีพ แน่นอนค่ะ เคลือบแก้วไม่ใช่การเคลือบกันกระสุน โดยมีความเข้าใจผิดว่าเคลือบแก้วส่วนใหญ่จะอยู่ได้ 3-5ปี ซึ่งจริงๆแล้ว ต้องทำการบำรุงรักษาผิวแก้วคู่กันไปควบคู่ไปกับการเคลือบใหม่ในทุกๆ2ปีเพราะตามสภาพอากาศบ้านเรา ร้อน ร้อน ร้อนมาก ซึ่งน้ำยาเคลือบแก้วที่บางผู้ผลิตในต่างประเทศเคลมไว้อยู่ได้ถึง5ปีนั้น เอาเข้าจริงๆก็ 2ปี อันนี้จากประสบการณ์การทำงานและการแลกเปลี่ยนความรู้จากร้านค้าหลายร้านผ่านรถหลายร้อยคันและน้ำยาหลากหลายยี่ห้อจากหลายผู้ผลิต ก่อนอื่นถ้าร้านค้าให้การรับประกันหรือการรับประกัน .. รับเป็นลายลักษณ์อักษร! และหากพวกเขามีการรับประกันเป็นลายลักษณ์อักษรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณอ่านข้อกำหนดในการดูแลการรับประกันนั้นอย่างละเอียด หากคุณไม่มีอะไรเป็นลายลักษณ์อักษรแสดงว่าคุณไม่มีการรับประกันอะไรเลย

การเคลือบแก้วหรือเซรามิกจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับเราหรือไม่

โดยทั่วไปแล้วเหมาะทุกคนที่เป็นเจ้าของรถยนต์และรักรถยนต์ของคุณ หลักง่ายๆในการทำเคลือบแก้วคือควรหาร้านเคลือบแก้วทำโดยมืออาชีพและใช้ข้อมูลที่เราได้นำเสนอไปประกอบการพิจารณา ซึ่งการเคลือบแก้วมันอาจจะมีราคาสูงกว่าการเคลือบสีรถยนต์ทั่วไปแต่ผลที่ได้ในการปกป้องสีรถยนต์ที่คุณรัก ไม่ว่ารถยนต์คันนั้นจะราคาหลักแสน หลักล้าน หรือหลายล้านผลที่ได้จากการเคลือบแก้วนั้นคุ้มค่ามาก แต่ถ้าคุณกำลังจะเคลือบแก้วรถยนต์เพราะเพื่อไม่ต้องดูแลรถยนต์ของคุณและไม่ต้องการล้างรถเลยนั้นต้องบอกเลยคุณจะเสียเงินเปล่า หรือหากคุณไม่ได้เรียนรู้เทคนิคที่เหมาะสมในการเลือกร้านเคลือบแก้วหรือ การล้างและบำรุงรักษารถยนต์ของคุณเองคุณก็ไม่คุ้มอีก เราในฐานะผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นในการทำงานและต้องการสะท้อนความจริง จึงได้เรียบเรียงและนำเสนอข้อมูลบางส่วนในการเคลือบแก้วหรือเซรามิกให้กับลูกค้าที่รักรถยนต์ทุกๆท่านน่ะค่ะ

เคลือบแก้วคืออะไร

THE

SUMMARY

18.png
บทสรุป

1.

เคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิกต่างกันไหม?

ตอบ: คำว่า เคลือบแก้ว และ เคลือบเซรามิก จริงๆ แล้วหมายถึงการเคลือบชนิดเดียวกัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สารเคลือบจาก SiO2 (ซิลิคอนไดออกไซด์) หรือ SiC (ซิลิคอนคาร์ไบด์) เพื่อปกป้องสีรถยนต์จากมลภาวะต่างๆ เช่น รังสี UV, ฝุ่น, คราบน้ำ, และรอยขีดข่วน แม้ว่าจะใช้คำต่างกันในทางการตลาด แต่ทั้งสองคำมีคุณสมบัติในการปกป้องสีรถในลักษณะเดียวกัน

3.

เคลือบแก้วแล้วดียังไง

ตอบ เคลือบแก้ว ช่วยปกป้องสีรถจากการเกาะตัวของน้ำและสิ่งสกปรก เพิ่มความเงางามและทนทานต่อสารเคมี รวมทั้งช่วยป้องกันรอยขีดข่วน ทำให้สีรถดูใหม่และเงางามยาวนาน

5.

คุณภาพและความทนทานของของน้ำยาเคลือบแก้ว

ตอบ:
คุณภาพและความทนทานของ น้ำยาเคลือบแก้ว ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และความชำนาญในการเตรียมพื้นผิวก่อนการเคลือบ การเตรียมพื้นผิวและขั้นตอนการเคลือบที่ถูกต้องช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งระยะเวลาการเตรียมผิวและเคลือบประมาณ 8-10 ชั่วโมงเพื่อให้ได้ความทนทานและความเงางามที่สูงสุด

7.

เคลือบแก้วนั้นเหมาะกับทุกคนหรือไม่?

ตอบ:

เคลือบแก้ว เหมาะสำหรับผู้ที่รักและดูแลรักษารถยนต์ แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการดูแลรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพราะการเคลือบแก้วต้องการการบำรุงรักษาเพื่อคงผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

2.

เคลือบแก้วหรือเคลือบเซรามิกคืออะไร?

ตอบ เคลือบแก้ว หรือ เคลือบเซรามิก คือการใช้สารเคลือบที่สร้างชั้นป้องกันบนสีรถยนต์ เพื่อปกป้องจากรังสี UV, ฝุ่น, คราบน้ำ และรอยขีดข่วน โดยทั่วไปจะใช้สาร SiO2 (ซิลิคอนไดออกไซด์) หรือ SiC (ซิลิคอนคาร์ไบด์) ที่เพิ่มความเงางามและความทนทานให้กับสีรถยนต์

4.

ความสามารถในการป้องกันของการเคลือบแก้ว

ตอบ:
เคลือบแก้ว หรือ เซรามิก ไม่สามารถป้องกันรอยจากสะเก็ดหินหรือการกระแทกที่แรงได้ เนื่องจากไม่ใช่การเคลือบป้องกันกระสุน แต่สามารถลดการเกาะตัวของน้ำและคราบสกปรกได้ ช่วยป้องกันคราบน้ำและทำให้ทำความสะอาดง่ายขึ้น

6.

การรับประกัน

ตอบ:
การรับประกันมีแน่นอน แต่ต้องได้รับเป็นลายลักษณ์อักษรจากร้านหรือผู้ผลิต และควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ

8.

สิ่งที่ต้องมองหาเมื่อเลือกหาร้านเคลือบแก้วสักร้าน

ตอบ:
เมื่อเลือก ร้านเคลือบแก้ว, ควรตรวจสอบคำวิจารณ์ออนไลน์จาก Facebook และ Google รวมถึงผลงานการเคลือบก่อนหน้านี้ ค้นหาความคิดเห็นเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์น้ำยาเคลือบ ที่ร้านใช้งานและอย่าเชื่อโฆษณาทั้งหมด ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากร้านค้าอย่างละเอียด หากต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม, AutoPlus ยินดีให้คำแนะนำในการตัดสินใจ

Copyright © 2018 by AUTOPLUS. All Rights Reserved 

Tel:  02-383-4542  HotLine: 084-323-3294

Paypal2.jpg
  • Facebook - Grey Circle
  • Google Places - Grey Circle
  • YouTube
bottom of page