top of page
  • รูปภาพนักเขียนAutoplus

"ถ้าคุณไม่อยากถูกหลอก เรื่องเคลือบแก้วแท้รถยนต์ ต้องชมคลิปนี้"

อัปเดตเมื่อ 15 ก.ค. 2563




ถ้าคุณไม่อยากถูกหลอก เรื่องเคลือบแก้วแท้รถยนต์ ต้องชมคลิปนี้" วันนี้ AUTOPLUS จะเปิดเผยเคล็ดลับขั้นตอนการเคลือบแก้วแท้แบบที่ไม่เคยมีใครกล้าเปิดเผยมาก่อน แบบเข้าใจง่ายๆภายใน3นาที มาให้แฟนเพจของเราได้รับชมกันค่ะ

การเคลือบแก้วหรือการเคลือบเซรามิกคือ?

การเคลือบเซรามิกหรือการเคลือบแก้วคือเรื่องเดียวกัน (เป็นการสื่อสารทางการตลาดที่เรียกกันต่างออกไป ฝรั่งเรียกว่าการเคลือบเซรามิก(Ceramic Coating) บ้านเราเรียกง่ายๆและเรียกกันว่า เคลือบแก้ว ) เป็นหนึ่งในสี่ของนวัตกรรมการดูแลสีรถยนต์ และเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเคลือบรถ การเคลือบด้วยเซรามิกหรือการเคลือบแก้วคือการสร้างเกราะป้องกันที่เกาะติดกับชั้นเคลือบผิวสี Clear Coat ของรถยนต์และที่ชัดเจน มันป็นเทคโนโลยีนาโน (เช่นเกราะไอรอนแมนของ Tony Stark - แต่เท่กว่า)

เมื่อน้ำยาเคลือบเซรามิกแข็งขึ้นมันจะสร้างชั้นจุลภาคของชั้นกระจกแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ และมันซึมลงไปในชั้นเคลือบใสของรถยนต์ Clear Coat เพื่อเติมเต็มความไม่สมบูรณ์ทั้งหมดและในที่สุดก็ให้พื้นที่ผิวเรียบอย่างไม่น่าเชื่อ นี่คือกุญแจสำคัญในการทำให้พื้นผิวสีรถยนต์ที่ไม่ชอบน้ำ (กันน้ำ) และทนต่อ UV, รอยขีดข่วน, สารเคมี, ความร้อนสูงและแม้กระทั่งการต่อต้านสิ่งสกปรก


ข้อดีของการเคลือบเซรามิกหรือการเคลือบแก้ว


  1. ความทนทานที่ยอดเยี่ยม: ในขณะที่การเคลือบแว็กซ์มีอายุการใช้งานประมาณหนึ่งสัปดาห์และเคลือบซีแลนท์ประมาณสองถึงสี่สัปดาห์แต่เคลือบนาโนเซรามิกหรือเคลือบแก้วคุณภาพสูงจำนวนมากสามารถมีอายุตั้งแต่หนึ่งถึงห้าปี! เมื่อบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง

  2. มีความทนทานต่อสารเคมีสูง: น้ำยาเคลือบเซรามิกนั้นทำจากแร่ธาตุแข็งซึ่งส่วนมากได้มาจาก ซิลิกา Sio2 ซึ่งให้คุณสมบัตที่ทนต่อสารเคมีเป็นพิเศษ Sio2นี้เองจะช่วยเคลือบและเป็นชั้นป้องกันจากสารอันตรายหรือเคมีต่างๆ

  3. ความต้านทานต่อรอยขีดข่วนที่เหนือกว่า: การเคลือบแก้วนั้นมีคุณสมบัติที่ดีมากโดยเฉพาะเกี่ยวกับการป้องกันรอยขีดข่วนแต่ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นรอยขีดข่วนไม่ได้ แต่มันก็ยากที่จะขูดขีดยานพาหนะที่เคลือบด้วยเซรามิหรือการเคลือบแก้ว 9H

  4. ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันอื่นๆ: เมื่อคุณใช้การเคลือบนาโนเซรามิกอย่างถูกต้อง มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ ไม่จำเป็นต้องใช้ขี้ผึ้งน้ำยาเคลือบสีหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆแต่ถ้าจะเคลือบทับก็ยิ่งทำให้เงาฉ่ำยิ่งขึ้น


5. คุณสมบัติที่กันน้ำ: Hydrophobic หมายถึงการกันน้ำ (เหมือนน้ำบนใบบัว) เนื่องจากชั้นของการป้องกันนั้นราบเรียบระดับนาโน น้ำจะเลื่อนออกจากพื้นผิวและมีเวลาติดผิวสียาก และยังขับไล่สิ่งสกปรกทำให้ง่ายต่อการกำจัดมูลนก, แมลง และสิ่งสกปรกอื่น



6. ให้ความเงางามที่ยอดเยี่ยม: เนื่องจากชั้นเคลือบเมื่อแข็งแล้วมันมีคุณสมบัติเป็นเสมือนแก้วมันทำให้เกิดความแวววาวที่ยอดเยี่ยมซึ่งทำให้รถของคุณดูฉ่ำและลื่น



ข้อเสียของการเคลือบเซรามิกหรือการเคลือบแก้ว

ในขณะที่การเคลือบเซรามิกเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าอัศจรรย์ในการปกป้องพื้นผิวสีรถยนต์จากความเสียหาย แต่มันก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ100% ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุนทำการเคลือบแก้ว:


  1. ต้องใช้เวลาและการเตรียมงานจำนวนมากก่อนการเคลือบ: เพื่อให้ได้ผลที่ดีสูงสุดในการปกป้องรถคุณจะต้องใช้เวลา3-4ชม.ในการเตรียมงานก่อนการเคลือบ นี่หมายถึงการล้างรถด้วยตนเองอย่างสมบูรณ์ (ไม่ใช่การล้างรถทั่วไป) แต่เป็นการดึงสิ่งสกปรกด้วยดินบาร์และ การขัดแก้ไขสีให้สมบูรณ์ (เพื่อลบรอยขนแมวและความไม่สมบูรณ์ของสีอื่นๆ) จากนั้นเช็ดด้วยน้ำยาเตรียมผิวก่อนการเคลือบ รวมเวลาทั้งหมดโดยประมาณ 8-10 ชม.ต่อคัน

  2. การเคลือบแก้วนี้อาจเกิดการเน้นให้เห็นความไม่สมบูรณ์ของผิวสี: สาเหตุที่คุณต้องการแก้ไขสีให้สมบูรณ์ก่อนคือ การเคลือบเซรามิกเน้นความสดใสและความเสียหายของสีรถยนต์ ง่ายๆ คือจะทำให้เห็นรอยตำหนิบนผิวเคลือบใสชัดขึ้น

  3. ถ้าเคลือบผิดแล้วน้ำยาเอาออกยาก: ถ้าคุณใช้การเคลือบแบบเซรามิกในที่สุดมันจะสึกกร่อนและต้องการเคลือบเพิ่มเติม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคุณควรลบการเคลือบเก่าและเริ่มกระบวนการเตรียมการและการเคลือบใหม่ ตัวอย่างการเคลือบที่ไม่ได้มาตราฐาน คลิก

  4. มีราคาสูงสำหรับการเคลือบแก้วด้วยมืออาชีพ: ผู้บริโภคมีทางเลือกมากมายในการพิจารณา พวกเขาสามารถมีหาร้านค้ามืออาชีพติดตั้งเคลือบเซรามิกระดับมืออาชีพ มีราคาตั้งแต่หลักหลายพันบาทจนถึงหลักหมื่นหรือจะทำเองด้วยการเคลือบเซรามิกแบบ DIYแน่นนอนการเลือกใช้มืออาชีพมีราคาแพงกว่ามาก แต่คุณมีมืออาชีพจัดการทุกอย่างและรถ ของคุณจะสวยกว่าแน่นอน

  5. สิ่งที่ผู้ซื้อระวัง: มีน้ำยาเคลือบแก้วหรือเซรามิกแบบ DIY ราคาถูก หลักไม่กี่ร้อยบาท และหลายยี่ห้อในตลาดเป็นของปลอมคือเป็นแค่แวกซ์หรือโพลลีเมอร์ (สามารถหาอ่านได้ใน EP.2 และ EP.3) ก่อนที่จะทำการลงทุนซื้อมาทำเองสิ่งสำคัญคือการตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูงและคุณต้องใส่ใจกับการเตรียมผิวสีและการขัดสีรถก่อนการเคลือบแก้วรวมถึงขั้นตอนการเคลือบอย่างระมัดระวัง

สรุปการเคลือบแก้วป้องกันอะไร?



เคลือบแก้วหรือเซรามิกโดยทั่วไปแล้วจะสมารถสร้างการปกป้องยานพาหนะจากรังสียูวีแสงแดด และสารเคมีกรดที่มาจากมูลนกและรอยขีดข่วนสิ่งสกปรกและเศษเล็กเศษน้อยและป้องกันความร้อนสูง นอกจากนี้ยังทำให้การล้างสิ่งสกปรกที่อาจจะติดรถและล้างออกยากนั้นล้างออกได้ง่ายเช่น ยางมะตอย, แมลง, มูลนก, ต้นไม้ ล้างออกได้ง่ายขึ้น





สรุปการเคลือบแก้วไม่ป้องกันอะไร?

แม้ว่าเคลือบเซรามิกหรือการเคลือบแก้วจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม แต่การเคลือบเซรามิกก็ไม่ได้ทำให้รถของคุณเป็นรถกันกระสุน! การเคลือบเซรามิกจะไม่ทำให้รถของคุณทนไฟและมันไม่สามารถป้องกันหินกรวดที่กระเด็นใส่ได้และมันไม่รักษาตัวเองได้เมื่อเกิดรอยขีดข่วนหรือความเสียหายและไม่ใช่เมื่อคุณเคลือบแก้วแล้วไม่จำเป็นต้องล้างรถเลย ยังไงก็ตามเราขอแนะนำให้คุณล้างรถทุกสองสัปดาห์เพื่อให้การเคลือบเซรามิกหรือการเคลือบแก้วนั้นอยู่กับรถยาวนานขึ้น


ถ้ายังไม่จุใจเรามีความรู้ในเชิงลึกเกี่ยวกับการเคลือบแก้วอีกแบบละเอียดคลิกที่นี่ เคลือบแก้วคือ?

และในบทความถัดไปเราจะพาคุณลงลึกไปในรายละเอียดของ ผลิตภัณฑ์ประเภทสุดท้ายในการปกป้องสีรถยนต์ การติดฟลิม์ PPF (Paint Protection Film) แล้วคอยติดตามกันน่ะค่ะ


Autoplus ยินดีให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำด้านดูแลสีรถยนต์ค่ะ

สอบถามโดยตรงคลิก: https://m.me/Autoplus4u


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเคลือบแก้วหรือบริการทำความสะอาดรถยนต์

สามารถจองคิวได้ที่เบอร์

Tel : 02-383-4542

Hotline: 084-323-3294 ,098-481-7165

เวลาทำการ: เปิดทุกวัน : 8.00 - 20.00 น

Autoplus ศูนย์บริการ #เคลือบแก้ว #เคลือบเซรามิก


ดู 643 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page